Hello

มารู้จักเทรนเนอร์พี่เจเจ มาดามเฟิร์สคลาสกันค่ะ 

 

บางคนอาจจะสงสัยว่าพี่เป็นใคร หลังจากที่เราได้เขียนได้อ่าน ใช้เวลาร่วมกันมาสักพักแล้ว Blog วันนี้พี่ขอเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังกันสักนิดดีกว่า 

​

Madame First Class เป็นใคร? ล้วงลึกเปิดเผยเบื้องหลังพี่เจเจ   

ปัจจุบันทำงานทำการอะไรอยู่บ้างเนี่ย? เทรนเนอร์หรือจกตา?  

โดนหาว่าไปนอนกับใครมาถึงได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าลูกเรืออยู่ที่ดูไบ?!?!!!

เข้าสู่วงการบัตเลอร์บริการระดับ 7ดาว ที่อังกฤษ 

เรียนเชฟหนึ่งปีกับชีวิตจอยๆที่อิตาลี  

ดูไบวีไอพี พี่มาแล้วจ้า

คอนซัลท์ คอนใจ เริ่มงานใหม่ในไทยแลนด์ 

รักกันจริงอย่าทำสิ่งนี้ 

แล้วตกลง Madame First Class เป็นใคร?

สรุป 3 ข้อ ที่อาจจะเป็นข้อคิดได้จากชีวิตของพี่เอง

​

อ่านเกี่ยวกับผลงาน ประวัติและ ประสบการณ์ของเทรนเนอร์พี่เจเจเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ 

https://www.firstclassservice.co.th/copy-of-our-trainer-1 

 

และนี่คือเรื่องราว Story ต่างๆของเราค่ะ 

https://www.firstclassservice.co.th/general-3  

 

Madame First Class เป็นใคร? ล้วงลึกเปิดเผยเบื้องหลังพี่เจเจ  

จ่อหัวDebutเว่อไปนิดมั้ยเนี่ย พี่เจเจ หรือ อาจารย์เจเจของนักเรียนไทยและต่างชาตินี่ เค้าเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไรมาบ้าง พี่ขอใช้บล็อกนี้แนะนำตัว ทำความรู้จักกับพวกเรา ทั้งผู้อ่านและนักเรียนบัตเลอร์ สาวๆแอร์ไพรเวทเจ็ท VIP FA ของพี่นะคะ  

 

อันที่จริงไม่อยากแทนตัวเองว่าอาจารย์เลย ใครมาเรียกโค้ชก็ขนลุก พี่เป็นคนธรรมดาที่พอมีประสบการณ์จริงที่ผ่านมา กว่า20ปีในระดับโลกก็มากพอจะแชร์ให้อ่านเป็นประโยชน์ และมีใจรัก อยากสอนเท่านั้นเอง 

เพราะฉะนั้นเรียก ครู หรือ พี่ ก็พอได้อยู่ ดูใกล้ชิดเข้าถึงง่ายกว่ากันเยอะเลย งั้นระหว่างนี้ก็เป็นพี่เจเจหรือมาดามเฟิร์สคลาสไปก่อนนะคะ 

​

ปัจจุบันทำงานทำการอะไรอยู่บ้างเนี่ย? ที่บอกว่าตารางแน่นนี่แน่นอะไรนักหนา? 

 พี่เจเจทำงานหลายอย่างอยู่ค่ะ ทั้งเป็นเทรนเนอร์ของสถาบันของตัวเอง First class service training นะคะ และ พี่มีอีกตำแหน่งเป็น PR & Communications ให้กับ Caviar Giaveri ที่เป็นคาเวียร์แท้จากอิตาลีด้วยค่ะ 

ทั้งสองงานสนุก ท้าทาย รสชาติเจ้มจ้นต่างกันไป และ เป็นความโชคดีของพี่ที่ได้นำประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตมารวบตึงจนเป็นอาชีพต่างๆที่เรารักขึ้นมาได้ด้วย 

 

 

โดนหาว่าไปนอนกับใครมาถึงได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าลูกเรือไวกว่าคนอื่น?!?!!! 

หลังจากที่เรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่ทำงานที่การบินไทยเป็นงานแรกในชีวิต อยู่หน่วยบริการผู้โดยสารภาคพื้น หรือ LP-I  แล้วจากนั้นก็สอบแอร์ผ่านได้บินไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตสกับสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ยาวเกือบ 15 ปี ทำงานสนุกและขยันมากจนสอบผ่านได้เลื่อนขั้นเป็นเพอร์เซอร์ Flight Purser หรือ หัวหน้าลูกเรือ ความรับผิดชอบประมาณ ตำแหน่งผู้จัดการบนไฟลท์นั่นเองค่ะ  

 

ตำแหน่งนี้ ไม่ใช่ใครก็สอบผ่าน พี่เป็นคนเอเชียคนเดียวที่ได้รับเลือกในตอนนั้น มีลูกเรือบางคนมาถามตรงๆว่าพี่ไปนอนกับใครมาถึงได้เลื่อนขั้นไวมาก ซึ่งมันไม่แฟร์เลย กว่าจะได้รับการยอมรับขนาดนั้น พี่ต้องตั้งใจทำงานมาต่อเนื่องมาก และ วัน graduation ของพี่ พี่ก็ได้รับรางวัลพิเศษเพราะมี performance ดีในระหว่างเป็น Purser trainee อีกต่างหากบนเวที และเป็นคนไทยที่ได้เป็นตัวแทนเพอเซอร์จากหลายประเทศมาพูดสปีชบนเวทีด้วย 

เรื่องที่พี่โดนบูลลี่ โดนปรามาสในความเป็นผู้หญิงไทยที่ได้รับโอกาสทำงานในตำแหน่งสำคัญที่ฝรั่งหลายคนก็ไม่ได้แบบนี้ มันทำให้พี่เชื่อมั่นว่า คนไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก แต่ใครจะคิดอะไรก็ช่างหัวมัน พี่เอาประสบการณ์ที่ช่วยให้พี่ได้รับสิ่งดีๆต่างๆในทุกวันนี้มาสอนนักเรียนของพี่ต่อดีกว่า 

 

ระหว่างที่อยู่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ พี่ได้มีโอกาสเรียนจบหลายหลักสูตร ทั้งด้านบริการ Aviation hospitality และ Leadership ประสบการณ์การได้ทำงานกับทีมนานาชาติกว่า 120 สัญชาติก็ถือเป็นบทเรียนการทำงานกับ cross cultural ทีมที่ดีมากด้วยค่ะ ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้นำมาสอนต่อให้นักเรียนของพี่ออกไปทำงานกับทีมนานาชาติให้สื่อสารกันราบรื่นและได้เป้าหมายสำเร็จ 

 

พี่ไม่เคยเสียดายหรือเสียใจที่ลาออกจากงานหัวหน้าลูกเรือเลย เพราะในระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมา พี่ได้เรียนรู้ ได้รับประสบการณ์ดีๆต่างๆมาเยอะมาก ได้เดินทางรอบโลก ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้ทำงานกับทีมลูกเรือนานาชาติที่สนุกมาก ได้เก็บเงินซื้อบ้านของตัวเองจบเรียบร้อย หมดหนี้หมดสิน และพี่ก็อิ่มตัวจนพร้อมที่จะออกไปลงมือทำอะไรใหม่ๆ ทุกวันนี้นึกถึงดูไบ นึกถึงสายการบิน มีแต่ความรู้สึกรักและขอบคุณ 

 

 

เข้าสู่วงการบัตเลอร์บริการระดับ 7ดาว 

ทำไมต้อง 7 ดาว? เพราะว่า ถ้า 5 ดาว เราจะเป็นไก่ย่างค่ะ 

 

ช่วงที่เริ่มอยากลาออกจากการเป็นแอร์ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับมาทำงานอะไรต่อที่เมืองไทย ทั้งชีวิตรู้จักแต่การบริการและดูแลคนอย่างประณีต ครั้นจะให้ออกจากชีวิตดีๆมารับเงินเดือนน้อยๆ พี่ก็รับไม่ได้อีก 

เลยจำเป็นต้องมองหาช่องทางที่เราได้นำประสบการณ์จากงานแอร์มาต่อยอด โดยที่เราก็ต้องยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ด้วย  

Cerca - Trova เป็นภาษาอิตาเลี่ยน แปลว่ามองหาก็มองเห็น หรือ "Seek and You Shall Find" ในภาษาอังกฤษนั่นเอง ช่วงนั้นพี่ก็ไป cerca และได้ trova โรงเรียนบัตเลอร์ที่อังกฤษ และรู้สึกว่าน่าสนใจดี ได้เรียนเพิ่มเติมเรื่องบริการระดับพรีเมียมที่เป็น private service เป็นการเปิดโลกใหม่อีกบทเรียนให้ชีวิตพี่เลย ก็เลยสมัครเรียนและได้เป็นคนไทยคนแรกของโรงเรียนด้วยค่ะ เพื่อนใหม่ๆที่ได้พบกันที่โรงเรียนบัตเลอร์ในวันนั้น ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในสายงานดูแลUHNWP อยู่แล้ว และก็ยังเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ  

 

 

เรียนเชฟหนึ่งปีกับชีวิตจอยๆที่แคว้นทัสคานี อิตาลี 

Tuscany เป็นความฝันของพี่มาตั้งแต่เป็นเด็ก และ การทำอาหารก็เป็นความรัก 

 

เอาจริงๆตอนนั้นจะว่าไป คือ หาเรื่องเที่ยวก่อนกลับเมืองไทยด้วยแหละ  เลยไปเรียนทำอาหารอิตาเลียนเอาสนุกๆ เอาPassion แต่อยู่ไปอยู่มา ทางโรงเรียนให้ช่วยงานการตลาด ทำdigital content ต่างๆ เลยได้อยู่ยาวกว่ากำหนด แต่ก็เป็นความโชคดีอีก พี่เลยได้มีหนึ่งปีที่ได้เดินทางไปดูนู่นนี่ ทำความรู้จักอาหารอิตาเลี่ยนต่างๆ ชีส ไวน์ พาสต้า เดินตลาด เยี่ยมฟาร์ม ชิมร้านอาหารโลคัลต่างๆ เป็นหนึ่งปีที่มีความสุขมากๆที่สุดเลยค่ะ 

และตอนนั้นพี่ไม่มีความคิดในหัวเลยว่าจะกลับมาเปิดร้านอาหารเป็นเชฟ เพื่อนๆคนอื่นในคลาสเค้าก็ไปฝึกงานร้านอาหารกันหมดแล้ว ทางเราก็แวะเยี่ยม ถ่ายรูปอาหารให้เพื่อน เอาไปเขียนในเว็บไซท์ให้ทางโรงเรียน 

ชีวิตการเดินทางรอบโลกกว่าสิบปีของพี่ พี่มีความสุขในการเดินsuper market เดินตลาดทั่วโลก หยิบจับดมสินค้า อาหารต่างๆ ชื่นชมดีไซน์เก๋ๆ  

พี่เองก็ไม่เคยคิดเลยว่าประสบการณ์ การประมวลความสุขในโลกแห่งอาหารของพี่ จะส่งให้พี่กลายมาเป็น PR & Communications ประจำประเทศไทย ให้ แบรนด์คาเวียร์จาเวรี คาเวียร์ชื่อดังจากอิตาลีในทุกวันนี้ 

พี่คิดว่า อะไรที่เรารักมันจริงๆ เราจะคลุกคลีอยู่กับมันด้วยความลุ่มหลง ช่วงแรกๆพี่ทำPRให้เค้าฟรี จนเค้าคงทนไม่ได้แล้ว เลยมาเจรจาทำสัญญาจ้างงานให้พี่มารับตำแหน่งนี้ไปเอง 

ทุกวันนี้ไม่เคยรู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่เลยค่ะ มันสนุกมาก อยากทำ อยากคิดงานให้ดีขึ้นทุกวัน  

 

 

ดูไบวีไอพี พี่มาแล้วจ้า

ดวงคงจะไม่ได้กลับมาอยู่เมืองไทย ตอนนั้นพี่ได้งานตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสให้กับบริษัทคอนซัลท์ชื่อดังในไทยแล้วด้วย แต่อยู่ๆพี่ก็ได้รับการติดต่อให้กลับมาดูแลครอบครัวนักธุรกิจสำคัญในดูไบครอบครัวนึง สุดท้ายก็เลือกกลับมาอยู่ดูไบอีกรอบ รับตำแหน่ง Personal Assistant ดูแลนาย และ เป็น House manager ด้วย ดูแลบ้านหลังใหญ่ยักษ์ จากหน้าบ้าน เดินไปหลังบ้าน ระยะทางนับเป็นกิโล ดูแลรถsuper carในบ้านอีก ช่วงนี้ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาทั้งจากอังกฤษ และ อิตาลี กับประสบการณ์แอร์มาทำงานเต็มที่ สนุกมาก (อีกแล้ว) 

นอกจากครอบครัวที่ดูไบ พี่ก็ได้มีโอกาสดูแลครอบครัวนักธุรกิจชื่อดังในไทย อินเดีย อังกฤษ ได้บินไพรเวทเจ็ทดูแลนายไปทำงานนู่นนี่กรุ๊บกริ๊บ พอได้หายคิดถึงการบินไปได้เยอะเลย  

สำหรับชีวิตในช่วงนี้ก็อ่านได้จากบล็อกหัวข้ออื่นๆเลยค่ะ 

 

 

คอนซัลท์ คอนใจ เริ่มงานใหม่ในไทยแลนด์

หลังจากที่ได้จอยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์งานPrivate  serviceอยู่ดูไบ  งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา 

เราก็ได้เวลากลับบ้านค่ะ และเรายังมีงานที่ปรึกษารอเราอยู่ด้วย VPก็ดี๊ดี กลับมาเค้าก็ยังรับเหมือนเดิม 

พี่เจเจได้ทำงาน Learning & development consultant ตำแหน่ง Senior Consultant ด้วย ปกติเคยอ่านเจอแต่ตามปกหนังสือ ไม่รู้ทำอะไร แต่แลดูยิ่งใหญ่และสำคัญ ซึ่งไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาเป็น ซึ่งมันก็คืองานเทรนเนอร์ งานวิทยากรที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้นั่นเอง 

เคยนั่งคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาท่านอื่น พอเล่าให้ฟังว่าเคยเป็นแอร์มา เค้าก็บอกว่า เราข้ามสายงานมาไกลมาก 

อันนี้ก็จริงอยู่ เพราะต้องมาเรียนรู้ใหม่หมดเลย ทั้งการดีไซน์หลักสูตรแบบ industrial design เรียนplatformการสอน การfacilitateคลาส รวมถึงองค์ความรู้สำคัญอื่นๆที่จำเป็นสำหรับงาน L & D โดยเฉพาะเรื่อง Innovation จากจอยๆอยู่ ต้องมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝน เรียนรู้ งานสาย educational consultancy อย่างจริงจัง ทางบริษัทก็เป็นสังคมคนขยันที่คอยส่งเราไปอบรมหลักสูตรต่างๆของต่างประเทศ ทั้งจากมหาวิทยาลัยระดับไอวี่ลีกของอเมริกาและองค์กรที่ปรึกษาระดับโลกอื่นๆอีกมากมาย ก็ยอมรับเลยค่ะว่าเหนื่อยมาก ทำงานไปเรียนรู้ไปเหมือนปีนเขาทุกวัน   แต่ความเหนื่อยในวันนั้น มันคุ้มมาก ทำให้วันนี้เรามีความรู้ทักษะคอนซัลท์ติดตัวไว้ทำมาหาเลี้ยงชีพตัวเองได้ต่อไป 

กราบขอบคุณคุณจิม พี่ขวัญ อาจารย์กรินท์ พี่ตุ้ง พี่ด็อกเตอร์เก๋ เพื่อนๆคอนซัลท์และเพื่อนร่วมงานที่ SEAC ทุกท่านที่เชื่อมั่นในตัวเรา ไม่หวงความรู้ ทั้งสอน ทั้งปลอบ ทั้งด่า และช่วยให้คุณเจเจสุดจอยมีวันนี้ขึ้นมาได้ค่ะ  

 

 

รักกันจริงอย่าทำสิ่งนี้ 

พี่เจเจได้รับเชิญไปให้สัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆมาเยอะทั้งในไทย และ ต่างประเทศ ทั้งทีวี นิตยสาร หรือ สื่อออนไลน์ต่างๆ สิ่งหนึ่งที่พี่ขอใช้พื้นที่นี้ในการแจ้งก็คือ มีบางหัวข้อที่พี่จะไม่พูด หรือ ไม่รับเชิญเลย หากบรีฟนั้นต้องการให้พี่พูดถึงลูกค้าในทางลบ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนอื่น  บางสื่อขอให้เม้าผู้โดยสารที่ทำเรื่องแย่ๆบนเครื่อง ขุดคุ้ยหลอกถามความลับวีไอพี ถ้าต้องการคอนเทนท์แนวนี้ พี่คงไม่เหมาะเลยค่ะ 

แต่ถ้าสนใจคุยแนวที่ให้ประโยชน์ แบ่งปันความรู้เรื่องงานบริการระดับวีไอพีมีเรื่องสนุกๆให้คุยกันอีกเยอะเลยค่ะ ทักมาได้เสมอเลย  

 

ที่ประเทศอังกฤษ มีเคสคลาสสิกของงานบัตเลอร์อยู่เคสนึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่จะเล่าเป็นตัวอย่างให้นักเรียนได้ระวังไว้นะคะ บางคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับบัตเลอร์ท่านนี้มาแล้ว เพราะว่าดังมากจนเป็น Talk of town อยู่สมัยนึงในอดีต บัตเลอร์ ท่านนี้ที่มีชื่อเสียง สื่อต่างๆสนใจมาก เพราะเค้าเคยเป็นบัตเลอร์ส่วนตัวของ late เจ้าหญิงไดอาน่า ผู้ล่วงลับไปแล้ว อีกอย่างคือเป็นบัตเลอร์ชายหน้าตาดีเลยค่ะ  ด้วยความหน้าตาดีหล่อเหลาทำให้ดังมากแต่สุดท้ายก็ดังในทางลบฉาวโฉ่ ชื่อเสียงเหม็นเฉ่า เพราะเค้าแอบขายข่าว แอบนำข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหญิงไดอาน่ามาเปิดเผยให้กับหนังสือพิมพ์ต่างๆ ซึ่งทำให้หลังจากนั้นก็เสื่อมเสียชื่อเสียงกันไป ชาวบ้านก็ก่นด่าว่าเมื่อไหร่จะหุบปากเสียที คนดีๆเค้าไม่ทำกัน 

 

พี่เชื่อว่า ไม่ว่าอาชีพใด เราก็ต้องรักษาตัวเองให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คนรอบตัวของเราด้วย ยิ่งถ้าเป็นงานบัตเลอร์ หรือ งานที่เราได้รับความวางใจ เราต้องให้เกียรติทั้งนายและตัวเอง ควรรักษาความไว้วางใจนั้นไว้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือ ลับหลัง  ถ้ารักจะเข้าวงการนี้ ต้องรักษาความเป็นส่วนตัวได้นะคะ   

 

 

Madame First Class เป็นใคร? 

Madame First Class มาดามเฟิร์สคลาส นี้เพื่อนบอกว่าเราจำเป็นต้องมีชื่อในวงการ สำหรับพี่ที่ร้อยวันพันปี ไม่เคยเข้า Tiktok หรือ เล่นโซเชี่ยลอะไรมากมายเล้ยยย Instagram ก็โพสท์ 2 ปีครั้ง รวมๆทุกอย่างที่มีดูยังไงก็เหมือนแอคหลุมค่ะ 

การทำคอนเทนท์ช่วงนี้จัดเป็นการออกจากพื้นที่ปลอดภัยที่แท้ทรู แต่เพราะมีความอยากเขียนอะไรเกี่ยวกับงานบัตเลอร์ งานไพรเวทเจ็ท และ งานบริการวีไอพีอื่นๆขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักเรียนหรือผู้อ่านได้ความรู้ได้ประโยชน์ขึ้นมาก็เลยลองทำดูค่ะ ยิ่งได้มาอ่านฟีดแบคที่มีคนได้เอาความรู้ไปใช้จริงๆก็ยิ่งมีกำลังใจทำต่อค่ะ  จะว่าไปก็สนุกดี พี่น้อมรับและขอบคุณทุกความเห็นนะคะ  

 

 

Key Summaries สรุป 3 ข้อ ที่อาจจะเป็นข้อคิดได้จากชีวิตของพี่เอง 

อย่ายอมรับเงื่อนไขอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะเงินเดือนที่ไม่พอยังชีพ เสาะหาโอกาสดูก่อนจะลดค่าตัวของตัวเอง 

ลองทำอะไรใหม่ๆ ออกจากComfort zone อาจจะพบสิ่งที่ดีกว่า หรือ ดีเกินคาดให้ชีวิตตัวเอง

เจอความท้าทาย ต้องท้ามันกลับ และสู้ให้สุดฝีมือจนเราเคารพตัวเองได้    

พี่ได้อ่านข้อความไลน์ที่พวกเราส่งมาคุย สอบถาม ปรึกษาเรื่องงาน เรื่องเรียนมาเยอะแล้ว วันนี้เลยได้มีโอกาสแนะนำตัวจากฝั่งของพี่บ้าง ถ้าใครมีคำถาม จะส่งมาก็แอดไลน์ของโรงเรียนเราได้เลยค่ะ 

Line@FirstClass  สั้นๆ จำง่าย โลโก้สีเขียวอ่อนๆ ทักพี่มาได้เลยค่ะ พี่รออ่านนะคะ 

 

สวัสดี และ ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านค่ะ